วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[Ghost Story] ดาดฟ้าที่ปิดตาย

ใกล้ฮาโลวีน2014แล้ว เรามีเรื่องผีๆเบาๆมาฝากค่ะ

เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับในรร.มัธยมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีตำนานลี้ลับเกี่ยวกับดาดฟ้าที่ปิดตายของตึกศิลปะ ว่าทุกๆปีมักจะมีเด็กนักเรียนติดอยู่บนดาดฟ้า บางคนก็หายตัวไปอย่างลึกลับ บางคนก็กระโดดลงมาจากดาดฟ้าตึก บางคนก็สภาพหวาดกลัวราวกับเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดมา และเหยื่อเคราะห์ร้ายทั้งหลายก็มีอาการหวาดผวาไปตราบนานเท่านาน.....

ในตอนกลางวัน ช่วงพักเที่ยงที่ร้อนมากจนไม่รู้จะร้อนยังไง เหงื่อไหลพลากๆจนทำให้รู้สึกเย็นสบายตัวมากกว่าจะอึดอัด

เมล(♀)และลัค(♂)ไปกินข้าวเที่ยงที่โรงอาหาร แต่คนก็เยอะมากจนหาที่นั่งกินลำบากและกลิ่นเหงื่อก็แรงมากจนแทบหายใจไม่ได้ ทั้งคู่จึงไปทานอาหารกันที่ใต้ตึกเรียน จากนั้นครูฝ่ายปกครองก็เข้ามาตักเตืือน ลัคก็เลยนั่งห่างออกจากเมลมาหน่อย เพื่อไม่ให้เมลโดนตำนิ แล้วก็เหน็บครูไปว่า เพื่อนจะนั่งด้วยกันไม่ได้รึไง แต่กลายเป็นว่าทั้งคู่โดนเพื่อนๆล้อจนไม่กล้าเข้าใกล้กันตลอดจนถึงคาบสุดท้าย

ตอนคาบเรียนพิเศษ พ่อของลัคมารับกลับบ้านเพราะมีธุระ ลัคเลยบอกเมลว่าไปเดี๋ยวเจอกันที่ตลาดริมน้ำ แล้วก็ออกไป

ตอนเรียนพิเศษ ครูบอกว่าจะบอกแนวข้อสอบด้วย เมลก็เลยจดไว้ให้ลัค จะได้เอาไว้อ่านเตรียมสอบ แล้วเมลก็หยิบหนังสือที่ลัคลืมไว้ใต้โต๊ะ กะจะเอากลับไปให้ลัดด้วย เพื่อนๆเห็นก็แซวกันใหญ่ แต่เมลก็ยังหยิบหนังสือใต้โต๊ะของลัคไปด้วย และหันไปเห็นว่าลัคไม่ได้เอาโทรศัพท์กลับ เธอเลยเอาไปด้วย

ก่อนจะกลับ ครูฝ่ายปกครองก็ตักเตือนเมลเล็กน้อยเรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสมของวันนี้ เมลก็ขอโทษครูและบอกว่าต่อไปจะระวัง แต่พอเพื่อนๆเห็นว่าเธอถูกครูตักเตือนก็แซวว่าสามีไปไหนเหรอ~ ทำให้เธอไม่พอใจมากและเดินสะบัดหน้าหนี แต่กระเป๋าสะพายที่ใส่ทั้งหนังสือของเธอและลัคมันก็หนักมากจนพาเธอล้มเอนไปข้างหลัง แต่ลัคก็มาประคองเธอไว้ แลวบอกว่าขอโทษที่มาช้า เขาน่าจะมาเก็บของด้วยตัวเอง ไม่น่าให้แฟนมาขนของให้แบบนี้ เมลดีใจมากจนเผลอกอดลัคต่อหน้าครูและเพื่อนๆ แต่ครูก็ไม่ได้สนใจและเดินกลับห้องไป ส่วนเพื่อนๆก็ทยอยเดินกลับบ้านไป เมลก็ชวนลัคเดินกลับบ้านด้วยกัน แต่ลัคบอกว่า มีสถานที่นึงที่อยากให้เมลไปให้ได้ เมลก็ยอมไป แต่ก่อนหน้านั้นก็ก็คืนโทรศัพท์ให้ลัค แล้วบอกว่าลัคลืมโทรศัพท์ไว้ แต่ลัคไม่ยอมรับโทรศัพท์และบอกให้เมลเก็บไว้กับตัวก่อน

จากนั้นลัคก็พาเมลขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกศิลปะ เมลเห็นวิวของรร.จากด้านบนก็รู้สึกชอบมากจนฮุบยิ้มไม่ลง แล้วลัคก็บอกให้ลองตะโกนจากบนนี้ให้สุดเสียงดู มันช่วยใ้ห้หายอึดอัดได้ และยังไงก็ไม่มีใครได้ยินอยู่แล้ว จากนั้นลัคก็เริ่มตะโกนก่อน
"ลัคชอบเมลน้าาาาาา~!!!!"
แล้วทั้งคู่ก็รีบก้มหลบ แล้วก็ค่อยๆเหลือบดูสายตาของคนข้างล่าง แต่ก็ไม่มีใครหันมาสนใจ แต่เมลก็หน้าแดงใหญ่ ลัคก็ถามไปว่าเป็นอะไรรึเปล่า เมลบอกว่าเปล่า แล้วก็รีบลุกไปตะโกนบ้าง
"เมลก็ชอบลัคน้าาาาาา.......!!!!!!!!"
แต่ว่าอยู่ๆประตูก็ปิดปังเสียงดังสนั่นก่อนที่เมลจะตะโกนจบ เมลตกใจมากจนเผลอนั่งลงด้วยความอาย แล้วลัคก็เดินไปทำท่าพยายามจะเปิดประตู แต่เปิดยังไงก็เปิดไม่ได้ แต่เมลนึกได้ว่ามีโทรศัพท์อยู่จึงพยายามจะโทรให้คนมาช่วย แต่โทรยังไงก็โทรไม่ติด แล้วลัคก็บอกว่าเราอยู่กันแบบนี้ไปก่อนก็ได้
จนในที่สุดฟ้าก็มืด เมลก็เริ่มกลัว แล้วลัคก็ถามเมลว่าเคยได้ยินเรื่องราวของสิ่งลี้ลับบนดาดฟ้าที่ปิดตายของตึกศิลปะมั้ย ที่ว่าทุกๆปีจะต้องมีนักเรียนมาติดที่นี่ทั้งคืนแล้วก็โดนผีหลอกจนไม่เป็นผู้ไม่เป็นคนไปตราบนานเท่านาน เมลก็บอกไปว่าดาดฟ้าตึกนี้ไม่ได้ปิดตายนี่ แล้วเรามีกันตั้งสองคน จะกลัวไปทำไม ลัคก็หัวเราะแล้วบอกว่าจะไปหาทางลงทางอื่น
จากนั้นโทรศัพท์ของลัคก็ดัง เมลก็รีบรับสายทันทีแล้วบอกว่าเมลกับลัคติดอยู่บนดาดฟ้าตึกศิลปะ แต่ปลายสายกลับเป็นเสียงไม่คาดว่าจะมาทางโทรศัพท์ได้ เสียงของลัคนั่นเอง ลัครีบบอกเมลว่าโทรไปหาเมลยังไงก็โทรไม่ติด เลยลองโทรเข้ามือถือตัวเองดูแล้วก็โชคดีที่เมลเก็บโทรศัพท์เข้าติดตัวไว้ แต่เมลก็แซวลัคกลับไปว่าลัคอยู่กับเธอตอนนี้นี่ เพราะลัคพามาดูวิวบนดาดฟ้าตึกศิลปะ เลยติดอยู่บนนี้กันทั้งคู่ ลัคตกใจมากจึงตะโกนใส่เมลว่าเธอจะบ้ารึไง เย็นวันนี้พ่อเป็นคนมารับลัคกลับบ้านเองแล้วจะกลับไปที่โรงเรียนได้ไง แล้วดาดฟ้าตึกศิลปะมันปิดตาย ไม่มีคนขึ้นไปเป็นปีแล้ว หยากไย่กับแมงมุมไม่เต็มไปหมดแล้วรึไง แล้วเมลก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรกำลังไต่คอเธออยู่ แล้วเมื่เธอดูดีๆก็เห็นว่า มีแมงมุมและหยากไย่เต็มตัวเธอไปหมด เมลตกใจมากจนกรี้ดออกมาแล้วตะโกนเรียกลัคใหญ่ แล้วเธอก็เห็นเงาของใครบางคนมากำลังเดินมา
"เหงา...จั..ง....เ...ล..ล.ลย"
เสียงที่แผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่กลับก้องกังวาลอยู่ในหูของเมล ขณะที่เงาของคนๆนั้นกำลังพูดก็มีกองอะไรซักอย่างที่ขยับได้ตกลงมาจากปากของเงานั่น เธอขนลุกและร้องไห้แล้วก็เอามือปิดหูตัวเองแล้วหลับตา แล้วอยู่ๆเธอได้ยินเสียงของลัคเรียกเธอ เธอเลยลืมตาขึ้นมา แต่สิ่งที่ปรากฎต่อหน้าเธอกลับเป็นซากศพที่ใส่ชุดนักเรียนที่ขาดวิ่น ดวงตาที่มีแต่หนอนแมลงวันทะลักออกมา เครื่องในที่มีสีเขียวจนเน่าเหม็นของซากศพเดินได้หล่นแผละลงบนตัวเมล มือที่มีเนื้อบางส่วนขาดไปและมีตะขาบไต่ออกมาจากมือนั้นยื่นมาที่หน้าของเมลแล้วบอกว่า
"..ม..า..อ...ย ...อยู่.... ...ด...ด้ว....ย...กัน...เ..ถ..อะ....."
แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเมลอีกเลย....

1 อาทิตย์ต่อมา ลัคเรียนพิเศษเสร็จก็มองไปที่โต๊ะของเมลอย่างอาลัย... แล้วเขาก็เดินกลับบ้านอย่างช้าๆโดยที่คิดไปด้วยว่าวันนั้นเขาน่าจะชวนเมลกลับพร้อมกัน แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงของเมลเรียกชื่อเขา พอเขาหันไปตามเสียงก็เห็นเมลกำลังเดินขึ้นไปบนตึกศิลปะ เขาจึงทิ้งสัมภาระแล้ววิ่งตามเมลไปทันที แต่วิ่งยังไงก็ตามไม่ทัน จนมาถึงหน้าประตูดาดฟ้าตึกศิลปะ ลัคก็สงสัยว่าทำไมหน้าทางขึ้นมันสะอาดชอบกล แต่ลัคก็เชื่อเมลต้องอยู่หลังประตูบานนี้แน่ๆ เขาจึงเดินเข้าไป และเขาก็เจอเมลที่หันหลังให้เขา ขณะที่ลัคกำลังจะไปดึงมือของเมลเพื่อที่จะพากลับไปด้วยกัน อยู่ๆประตูก็ปิด และมือที่เขาจับกลับกลายเป็นมือของซากศพที่เละคามือเขา และมีตะขาบกับหนอนแมลงวันทะลักออกมาจนเละเต็มตัวเขาไปหมด....
"..ม...า..เ.....ล่..น.....กั...น....เ...ถ.......อะ......"



ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ดาดฟ้าของโรงเรียนก็เป็นที่เล่าขานต่อไปอีกนาน....







*เรื่องทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นค่ะ ไม่มีเค้าโครงส่วนไหนมาจากเรื่องจริงทั้งสิ้น
แต่ถ้าเกิดขึ้นไปติดบนดาดฟ้าจริงๆก็ควรจะตะโกนเรียกภารโรงนะคะ(เพราะภารโรงจะเป็นคนสุดท้ายที่คอยเก็บกวาดขยะบนตึก) อย่ารอจนมืด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น